“แต่ละที่ก็มีเอกลักษณ์แตกต่างกัน ต้องไปเองถึงจะรู้”
ออกตัวก่อนว่าเราเองก็เป็นหนึ่งในสตูดิโอที่เปิดให้บริการกับช่างภาพและแบรนด์สินค้าต่างๆ มาเช่าใช้สถานที่เพื่อถ่ายภาพ เราอยู่แต่กับสถานที่ของเราเองมานาน จนเราเองก็อยากจะออกไปเห็นของคนอื่นๆบ้าง เพื่อทำความรู้จักกับสตูดิโอของคนอื่นๆ และเพื่อนำเสนอให้ช่างภาพหรือผู้ที่กำลังมองหาสถานที่ถ่ายภาพได้เห็น และเลือกสตูดิโอได้ตรงกับความต้องการมากที่สุด เกิดเป็นความประทับใจของช่างภาพ นางแบบ และเจ้าของแบรนด์สินค้า ก็เลยเป็นที่มาของทริปเล็กๆ ที่เราได้ออกไปเยือนสตูดิโอถ่ายภาพต่างๆ พร้อมพูดคุยกับเจ้าของสถานที่นั้นจริงๆ
5 สตูดิโอที่เราเลือก จะมีเอกลักษณ์เรื่องการตกแต่งสถานที่ที่ค่อนข้างเด่นชัด มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่แตกต่างกัน มีจุดดี จุดเด่น แตกต่างกัน ว่าแต่จะน่าสนใจขนาดไหนเดี๋ยวเราไปดูกันเลยดีกว่าค่ะ (ปล.รูปเยอะมาก)
เริ่มกันเลยที่
1. The Glasshouse Studio
ตั้งแต่ที่เราก้าวเท้าเข้าไปที่ Glass House Studio เราก็รู้สึกได้ถึงความอบอุ่น ความเป็นธรรมชาติ และความเงียบสงบ เพราะว่าที่นี่คือบ้านพักอาศัยที่ดัดแปลงพื้นที่มาเป็นสตูดิโอถ่ายภาพ
พี่แอน อรัญญา มักรมณี และ เอกเทพ ไมเกิ้ล (Dinsor MichAels) 2 พี่น้องผู้ดูแลสตูดิโอที่นี่ให้การต้อนรับตั้งแต่หน้าบ้านด้วยสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใส พร้อมพาเราเดินชมทั่วบริเวณ ที่นี่สามารถถ่ายภาพได้ตั้งแต่บริเวณสวนของบ้าน ไปจนถึงห้องกระจกขนาดใหญ่ โดยรอบมีต้นไม้ใหญ่โอบล้อมอยู่ มีสนามหญ้าขนาดย่อมๆ ให้ทำกิจกรรมกลางแจ้งได้ มีแปลนอนขนาดใหญ่อยู่ใต้ต้นไม้ มีบ่อน้ำให้ความรู้สึกสดชื่นเป็นธรรมชาติ ส่วนด้านในห้องกระจกถูกจัดให้เป็นห้องรับแขก และห้องใต้หลังคาที่สามารถถ่ายรูปได้ แถมยังมีพื้นที่ถ่ายภาพแบบจัดไฟจัดฉากอุปกรณ์ครบครันอีกด้วย
ใครที่ชอบให้ภาพออกแนวหรูดูดี แถมชอบแนวสวนๆ ด้วยแล้วหล่ะก็ ต้องไม่พลาดที่นี่เลย
Location : ปุณณวิถีซอย 11 ใกล้ BTS ปุณณวิถี ออก Exit 1
ต่อมอเตอร์ไซค์ประมาณ 15 บาท
Pricing: ชั่วโมงละ 800 บาท รับจองทั้งโซนไม่มีแบ่งห้อง
Facebook: https://www.facebook.com/
Website:http://
Parking: มีที่จอดรถรองรับได้จำนวน
2. Her Room
จะไม่พูดถึงที่นี่ก็คงจะไม่ได้ เพราะว่าเป็นอีกหนึ่งสตูดิโอที่เป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เพราะสถานที่สวย ตกแต่งน่ารัก ตามแบบฉบับญี่ปุ่น ใครๆก็อยากมาถ่ายรูปที่นี่! เราได้ติดต่อคุณโมส พันธุ์ยุพา หม้อมงคล เจ้าของสตูดิโอแห่งนี้ แล้วก็ดีใจมากๆที่ได้มาทำความรู้จักกัน
พอเรามาถึงที่สตูดิโอ จะเห็นร้าน sistory room ที่ชั้นล่างก่อนเลยค่ะ เดินเข้าไปปุ๊บคุณโมสก็รอต้อนรับอยู่แล้ว ^ ^ ที่ร้านนี้ขายของตกแต่งน่ารักมากๆๆๆ เต็มไปด้วยตุ๊กตาน่ารัก แก้ว สมุด ดินสอ กระเป๋า โมเดลต่างๆ ใครที่ชอบ moomin ต้องกรี๊ดแน่ๆ ซึ่งของทั้งหมดนี้มาจากญี่ปุ่นของแท้ 100% เพราะคุณโมส เลือกเอง ขนมาเองกับมือ ใครสนใจก็เลือกช๊อปกันได้เลยจ้า
เดี๋ยวก่อนๆ เราไม่ได้มาช๊อปปิ้ง รีวิวร้าน sitsory room นะ เรามา Her Room หลงดูของอยู่สักพักหนึ่ง 5555 คุณโมสพาเราเดินเข้าไปด้านใน พาขึ้นไปชั้น 3 ด้านบน ก็เจอเลยค่ะ Her Room เป็นห้องนอนค่อนข้างกว้าง (ของจริงกว้างกว่าที่เห็นในรูปทั่วๆไปอีกนะ) ตกแต่งแบบ Muji ญี่ปุ่น เน้น furniture ไม้สีอ่อนๆ เข้ากับห้องสีขาว ประดับด้วยดอกไม้แห้ง และของตกแต่งน่ารักๆ ซึ่งเป็นสไตล์ Muji บางชิ้นก็ซื้อมาจากญี่ปุ่น คุณโมสเล่าว่า เธอเดินทางไปญี่ปุ่นบ่อยมาก เพราะด้วยที่ไปถ่ายรายการท่องเที่ยวญี่ปุ่นด้วยแล้ว (รายการ: คิดถึงญี่ปุ่น ญี่ปุ่นน่ารัก) เธอยังติดใจและชอบการตกแต่งบ้านหรือร้านค้าสไตล์ญี่ปุ่นด้วย เลยหา reference จากหนังสือตกแต่งห้องของญี่ปุ่น และเริ่มหาร้าน furniture ที่มีสไตล์แบบนี้เพื่อให้เข้ากับ concept ที่วางไว้
จุดเด่นของห้องนี้คือแสงสีขาวทั้ง 4 ทิศ ถึงแม้ว่าแสงจะเข้าทางเดียว แต่เนื่องจากเป็นกระจกใหญ่ และมีพื้นและผนังเป็นสีขาวด้วยแล้ว จึงทำให้แสงกระจายทั่วห้องเป็นสีขาว รูปจึงดูฟุ้ง ขาว เคลียร์ สวยงามทีเดียว ส่วนการตกแต่งก็เป็นแบบ Muji ญี่ปุ่นน่ารัก ที่มี detail ไม่มากจนเกินไป ดูเรียบง่าย สะอาดตา และดูน่ารักสดใสๆ เราเข้าใจว่าความขาวใสของแสง และความพอดีๆ ของ furniture จะช่วยเสริมให้นางแบบดูเด่นชัดขึ้น เป็น focus ของภาพที่ชัดเจน
อีกหนึ่งห้องแนว pastel สาวหวานๆ อบอุ่น น่ารัก ต้องไม่พลาดที่นี่จ้า
Location : ลาดพร้าววังหิน ซ. 8 สามารถ search หาตำแหน่ง google map ด้วย keyword sistery room
Pricing: Herroom studio + teepee zone + pastel zone (80 ตร.ม.) ครึ่งวัน 3,500 เต็มวัน 6,000 บาท // Herrom studio + teepee zone (60 ตร.ม.) ครึ่งวัน 3,000 เต็มวัน 5,000 บาท // Pastel room ครึ่งวัน (20 ตร.ม.) ครึ่งวัน 1,500 เต็มวัน 2,500 บาท
Facebook: https://www.facebook.com/
Parking: 4-5 คัน
3. Raw Planet Studio
ใครที่ชอบสตูดิโอแนวดิบๆ เท่ๆ ต้องไม่พลาดสตูดิโอนี้เลยค่ะ Raw Planet Studio เห็นรูปครั้งแรกก็ชื่นชอบสไตล์การตกแต่งแล้ว เราเลยไม่พลาดที่จะติดต่อขอเข้าไปเยี่ยมเยียนบ้าง
การเดินทางไป Raw Planet Studio ค่อนข้างไกลสักหน่อย เพราะอยู่ถึงกิ่งแก้ว อีกนิดเดียวนี่สนามบินสุวรรณภูมิละ ต้องสังเกตุที่ทางดีๆสักหน่อยนะคะ เพราะว่าจริงๆแล้วที่นี่คือห้องคอนโดชั้นบนสุด ของหมู่บ้านโครงการธนาซิตี้ อาคาร 9 (ใกล้ๆกับสนามกอล์ฟธนาซิตี้) พอเราเข้าไปในตึกก็กดลิฟท์ไปที่ชั้น 6 เลย บรรยากาศรอบนอกแอบชวนขนลุกเล็กน้อย เพราะอาคารค่อนข้างเก่าแล้ว ลิฟท์นี่เหมือนอยู่ในหนังสยองขวัญ ประมาณนั้นเลย ออกจากชั้น 6 จะเจอประตูไม้อยู่ห้องเดียว ห้องนั้นเลยค่ะเป้าหมายของเรา
พอเข้าไปในสตูดิโอแล้วนี่ คนละอารมณ์กับข้างนอกเลย ห้องดูใหม่ทีเดียว ถ้าเปิดหน้าต่างจะได้ลมพัดมาเบาๆ เหมือนเราอยู่บ้านพักตากอากาศ ด้วยความที่ไม่ได้อยู่ในเมืองเท่าไหร่ อากาศที่นี่จึงดีมากๆ สงบเงียบ และสิ่งที่เป็นจุดเด่นของที่นี่เลยก็คือบันไดวนสีขาวกลางห้อง เชื่อมชั้นล่างและชั้นบนของห้องคอนโดแบบ duplex เกิดเป็น space ที่โล่ง ได้เพดานสูง ดูปลอดโปร่งทีเดียว และที่สำคัญคือการตกแต่งห้องที่ไม่เหมือนที่ไหนเลย ออกเป็นแนวตะวันตกที่โดดเด่นด้วยไม้สีเข้ม
คุณแป้งเขียว เจ้าของที่นี่เล่าให้ฟังว่า จริงๆตั้งใจอยากให้เป็นที่ทำงาน เป็นสตูสำหรับทำหนัง ไปๆมาๆ อยากแบ่งปันให้คนอื่นๆมาใช้ด้วย ก็เลยเปิดให้เช่า ที่เลือกที่นี่เป็นสตูดิโอ ก็เพราะบันไดวนสีขาวกลางห้องนี่แหละ ทำให้เป็นที่ๆมีเอกลักษณ์ ดูมี space ที่กว้างขึ้น การตกแต่งที่นี่จะทำเป็นแนวดิบๆ เท่ๆ ใช้วัสดุหลักเป็นไม้ แนวๆ ไม้เก่าหน่อย สีเข้ม เชื่อมด้วยเหล็ก ต่อเป็นเฟอร์นิเจอร์ตู้ โต๊ะ และชั้นวางของ ให้ mood and tone แบบตะวันตก ผนังที่ดูเก่าๆ ก็เกิดจากการทำขึ้นมาโดยการเซาะเอาสีที่ผนังออก ให้ได้อารมณ์ดิบๆ เก่าๆ ซึ่งทั้งหมดนั้นเกิดจากการดีไซน์และหาวัสดุไม้กันเอง ซึ่งส่วนใหญ่ก็ทำเองกับมือ โดยหุ้นส่วนอีกคนก็คือคุณวสิท ทำให้ที่นี่มี character ที่ชัดเจนมากๆ เหมาะสำหรับลุคเท่ๆ ดิบๆ เหมาะทั้งถ่ายแฟชั่น ถ่ายสินค้า ภาพ portrait หรือ ถ่าย VDO ก็ได้ จะบอกว่าแนวเซ็กซี่หรือเท่ๆ นี่เหมาะกับที่นี่มากก คือใช่เลย
จริงๆแล้วที่นี่เป็นที่ๆมีคนอยู่จริงๆ ก็ทีมงานของคุณแป้งเขียวนั่นแหละค่ะ ทั้งห้องนอน ห้องครัว จริงๆแล้วมีคนใช้อยู่นะ รวมถึงคุณแป้งเขียวด้วย ถ้าไม่มีลูกค้าพวกเค้าก็จะใช้เป็นห้องทำงาน ห้องนอน ถ้ามีลูกค้าจองมา ก็จะแอบหลบไปอยู่ในห้อง Staff เพื่อให้ลูกค้าใช้งานพื้นที่สตูดิโอได้อย่างเต็มที่
ที่นี่สามารถแบ่งเป็นห้องๆได้หลายห้องทีเดียว มีโซนที่เล่นกับแสงได้เยอะ มีห้อนนอน 2 ห้อง ห้องครัว ห้องทำงาน ห้องนั่งเล่น เคาน์เตอร์บาร์ และระเบียง ที่นี่มีแสงเข้าหลายทิศทาง มีมุมให้ถ่ายรูปเยอะ มุมที่ถ่ายรูปสวยโดดเด่นก็จะเป็นโซนห้องทำงานและห้องครัว เพราะแสงเข้าผ่านมูลี่ทำให้เห็นแสงเป็นเส้นๆ เกิดเป็นมิติของภาพที่น่าสนใจไม่น้อย พื้นที่โดยรวมค่อนข้างกว้างโดยเฉพาะห้องนั่งเล่น แต่ในแต่ละห้อง อย่างห้องนอน ห้องครัวนั้น ไม่ได้กว้างมากเท่าไหร่
Location: ชั้น 6 โครงการธนาซิตี้ กิ่งแก้ว (ทาวเวอร์ 9), ซ.กิ่งเเก้ว 14/1
Pricing : ราคาครึ่งวัน ภาพนิ่ง 2,500 บาท วิดีโอ 3,500 บาท // ราคาเต็มวัน ภาพนิ่ง 4,000 บาท วิดีโอ 6,000 บาท (ไม่มีการแบ่งห้อง สามารถใช้ได้ทุกโซน)
Open: 8.00 – 17.00 น.
Facebook: https://www.facebook.com/rawplanetl…
Parking : มีที่จอดรถรองรับ
4. Cub Studio
ใครที่กำลังมองหาสตูดิโอแนวอบอุ่นน่ารักๆ พร๊อบเยอะ อย่าลืมมาที่นี่เลยจ้า cub studio เป็นอีกหนึ่งสตูดิโอที่คิวแน่นมากๆ ใครสนใจต้องรีบจอง ไม่งั้นอดแน่ๆ เราเลยหาเวลาไปทำความรู้จักที่นี่กันค่ะ
พื้นที่สตูดิโออยู่ที่ชั้น 1 ของอาคาร พอเราเปิดประตูเข้าไปปุ๊บก็จะเจอสตูดิโอเลยค่ะ พื้นที่ห้องค่อนข้างกว้าง (4×8 เมตร) สามารถจัดเป็นทริปได้เลยทีเดียว ในห้องแบ่งได้เป็น 2 มุม ก็คือมุมเตียงนอน และมุมห้องครัว การตกแต่งก็น่ารัก ส่วนใหญ่เน้นเป็นเฟอร์นิเจอร์ไม้สีอ่อน ทั้งโต๊ะ ชั้นวางของ เก้าอี้ รวมถึง accessories ประกอบต่างๆ ก็มีเยอะมาก นอกจากไม้แล้ว ก็จะมีโทนสีขาวของผ้าม่าน เตียง และผ้าคลุมต่างๆ เพราะฉะนันห้องจึงเป็นแนวๆสีขาวไม้ ทำให้ดูอบอุ่น น่ารัก ดูเป็นห้องของสาวหวานๆ ไปเลยทีเดียว
พี่วิว เจ้าของ cub studio บอกว่าเธอตกแต่งที่นี่เอง อย่างพื้น ผนังก็ลงมือปูเองกับมือ ส่วนเฟอร์นิเจอร์ไม้ต่างๆ และของตกแต่งพวกกล่องหวายเพื่อประดับตกแต่ง ก็มีที่บ้านช่วยทำให้อีกด้วย ลงมือลงแรงกันเองขนาดนี้ผลงานจึงออกมาดูดีทีเดียว พี่วิวเล่าว่าเดี๋ยวอาจจะมีการปรับเปลี่ยน หรือเพิ่มห้องใหม่ เราก็รอกันเนอะว่าจะออกมาเป็นยังไง
สำหรับการถ่ายภาพ จะมีแสงเข้ามาทางเดียว ผ่านทางประตูที่เป็นกระจกขนาดใหญ่ แสงจะเป็นโทนสีอุ่นๆ เพราะด้วยเฟอร์นิเจอร์หลักและพื้นเป็นไม้นั่นเองค่ะ ที่นี่มีพร๊อบให้เยอะมากทั้งตุ๊กตา ของเล่น ของประดับตกแต่ง ก็เยอะทำให้ถ่ายรูปได้หลากหลาย โดยรวมแล้วเหมาะสำหรับถ่าย portrait แบบเดี่ยวๆ ถ่ายรูปครอบครัว หรือ pre-wedding แบบหวานๆ ก็ได้ค่ะ สำหรับสินค้าแฟชั่นก็จะเป็นแนวหวานๆ น่ารักๆ นี่เข้ากับ mood ของที่นี่มากทีเดียว
Location : หน้าโรงเรียนสวนกุหลาบนนทบุรี เลย 5 แยกปากเกร็ดมานิดเดียว
Pricing: ครึ่งวัน 2000, เต็มวัน 3,500 บาท ร้านค้าออนไลน์ลด 25%
Open: 9.00 – 16.00 น.
Facebook: https://www.facebook.com/cubstudiot…
Website: http://www.cub-studio.com/
Parking: มีที่จอดรถรองรับ
5. Cafe House Studio
ขอพูดถึงสตูดิโอของตัวเองบ้าง ใครที่กำลังมองหาสตูดิโอแนว minimal น้อยๆ เท่ๆ ลองมาดูที่นี่เลยค่ะ คาเฟ่เฮ้าส์สตูดิโอ ที่นี่มีห้องให้เลือกถึง 5 แบบ โดยแต่ละห้องมีเอกลักษณ์ที่ชัดเจนและแตกต่างกัน แต่อยู่ในอาคารเดียวกัน ^ ^
เริ่มจาก Cafe Zone เป็นห้องกาแฟ ตกแต่งแนวร้านกาแฟ เน้นเฟอร์นิเจอร์ไม้ ตัดกับผนังปูนเปลือย มีอุปกรณ์การทำกาแฟต่างๆ เครื่องกาแฟ ที่ชง แก้วต่างๆ มีกระจกที่แสงเข้าได้ 2 ทาง พร้อมมีสวนเล็กๆ อยู่บริเวณด้านนอก เราตกแต่งสไตล์ร้านกาแฟได้เหมือนของจริงมาก แต่ว่าไม่ได้ชงขายนะคะ เพราะฝีมือยังไม่ถึงจริงๆ ^ ^ (ตอนนี้กำลังหัดอยู่ค่ะ พร้อมเมื่อไหร่มาสั่งได้แน่นอน)
ต่อมาเป็นห้อง white space
ห้อง white space เป็นห้องนอนสีขาว ตกแต่งแบบเรียบง่าย เน้น mood tone แบบขาวดำ แบบมินิมอลสไตล์ มีกระจกขนาดใหญ่แสงเข้าถึงได้ตลอดทั้งวัน พื้นสีขาว ทำให้กระจายแสงได้ดีทั่วทั้งห้อง สไตล์การตกแต่งเราอยากให้ใช้ได้ทั้งผู้ชาย ผู้หญิง เป็นกลางๆ เป็นห้องนอนสำหรับคนรุ่นใหม่ พื้นที่ค่อนข้างกว้าง (5 x 5 เมตร) สามารถจัดเป็นทริปถ่ายภาพได้ด้วย
นอกจากนี้ยังมีห้อง Gallery เป็นห้องโล่งขนาดใหญ่ (100 ตร.ม.) ตกแต่งด้วยกรอบรูปแบบง่ายๆ ภาพที่ได้สามารถเห็นเป็นความลึกของฉากหลังเหมาะกับงานถ่ายแบบ ถ่าย Fashion หรือถ่าย portrait แบบ minimal
Light Studio ห้องถ่ายรูปแบบจัดไฟ พร้อมฉากสีขาว ดำ ชมพู ฟ้า และอุปกรณ์ไฟ Flash และไฟต่อเนื่อง บันไดสูง โต๊ะเก้าอี้ รองรับได้มากกว่า 10 คน พร้อมห้องแต่งตัวภายในห้อง เหมาะสำหรับถ่ายแฟชั่น และสินค้าต่างๆ
Roof top ชั้นดาดฟ้าที่มีจุดเด่นอยู่ที่บริเวณโดยรอบไม่มีตึกสูงบังในระยะใกล้ จึงสามารถเก็บท้องฟ้าได้สวย มีตึกสี pastel อยู่ในระยะเดียวกัน ทำให้ถ่ายภาพได้สวยมีเอกลักษณ์
แม้ว่าแต่ละห้องจะตกแต่งต่างกัน แต่ก็มี Mood and Tone ที่เป็นธีมเดียวกันก็คือความเรียบง่าย ที่เลือกการตกแต่งในแบบ Minimal นี้เพราะเราชอบรูปถ่ายแบบน้อยๆ มีจุดโฟกัสที่ชัดเจนก็คือตัวแบบนั่นเอง อีกทั้งพวกเรายังชอบสีขาวดำ เพราะมีเสน่ห์ มีความเท่ และมีความลึกลับอยู่ในตัว จึงเป็นสีธีมหลักของที่นี่ค่ะ โดยรวมแล้วก็เหมาะกับการถ่าย portrait ถ่ายแฟชั่นสไตล์ minimal ถ่ายแฟชั่นนิตยสาร ถ่ายภาพอาหาร ถ่ายรายการหรือโฆษณาก็เหมาะ เพราะพื้นที่มาก รองรับได้มากกว่า 20 คน
พูดเกี่ยวกับแสงนิดนึง เนื่องจากอาคารหันหน้าไปทางทิศตะวันออก จึงได้แสงเช้าที่เป็นแสงแข็ง ส่องเข้ามาผ่านกระจกเป็นเส้นอย่างชัดเจน ส่วนช่วงบ่ายยังมีแสงที่สว่างอยู่แต่จะเป็นแบบฟุ้งๆ มากกว่า
ห้องแต่ละห้องแยกกันอยู่เป็นคนละชั้นของอาคาร มีห้องน้ำ ห้องแต่งตัว แยกเฉพาะของแต่ละโซน จึงทำให้มีความเป็นส่วนตัว แม้จะอยู่ในอาคารเดียวกันค่ะ
Location: 5 ซอยประชาสงเคราะห์33, ใกล้ MRT ห้วยขวาง ออกทาง Exit 3, นั่งมอเตอร์ไซค์ 20 บาท
Price: ถ่ายแสงธรรมชาติราคาห้องละ ครึ่งวัน 3,000 บาท เต็มวัน 5,000 บาท // ถ่ายแบบจัดไฟ ครึ่งวัน 4,000 บาท เต็มวัน 6,000 บาท
Promotion: จอง 2 โซนลด 10% แถมฟรีดาดฟ้า (ใช้ได้เฉพาะการจองภายในวันเดียวกัน)
Open: 9.00 – 18.00 น. (สามารถเปิดสตูก่อนได้ แค่ inbox เข้ามาแจ้งค่ะ)
Facebook: https://www.facebook.com/cafehouses…
Website:http://www.cafe-house.com/
Parking: จอดฟรี 7 คัน, หากมากกว่า 7 คันสามารถจอดได้ที่คอนโดตรงข้าม เสียค่าที่จอด 50 บาทต่อคัน
Leave A Comment